กาซา: พลเรือนหลายพันคนตกอยู่ใต้ภัยอันตรายต่อชีวิต กลางสนามต่อสู้ที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้คนที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าเฝ้าดูลูกไฟและควันพวยพุ่งขึ้นเหนืออาคารแห่งหนึ่งในเมืองกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ระหว่างการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่ออาคารปาเลสไตน์ทาวเวอร์
นับตั้งแต่การสู้รบเริ่มขึ้นในวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม และหลังจากการโจมตีของอิสราเอล สถานการณ์ในฉนวนกาซาคือหายนะ - ดินแดนปาเลสไตน์ ตุลาคม 2566 © Mahmud Hams/AFP
การต่อสู้และระดมยิงอย่างเข้มข้นในกาซาปิดทางหนีออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัยของผู้คนหลายพันคน ในช่วง 6 วันที่ผ่านมา องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Doctors Without Borders / Médecins Sans Frontières - MSF) พยายามอพยพเจ้าหน้าที่บางส่วนและครอบครัวราว 137 ชีวิต ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็ก 65 รายออกจากพื้นที่การสู้รบ โดยปัจจุบันพวกเขาติดอยู่ในตึกที่ทำการขององค์การฯ ใกล้โรงพยาบาลอัล ซิฟา (Al-Shifa) องค์การฯ เรียกร้องให้มีการหยุดยิงอย่างเร่งด่วน ซึ่งเป็นวิธีการเดียวที่จะสร้างเส้นทางอพยพที่ปลอดภัยสำหรับพลเรือนหลายพันคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ขององค์การฯ และครอบครัว
ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ขององค์การฯ และครอบครัวไม่สามารถออกไปนอกพื้นที่อาคารได้เนื่องจากมีการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง จากนั้นในวันอังคารที่ 14 มีการใช้อาวุธปืนยิงกระสุนเข้ามาภายในส่วนพักอาศัยขององค์การฯ โดยไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ต่อมาในวันพฤหัสที่ 16 อาคารสำนักงานได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิด และถังเก็บน้ำของส่วนที่พักถูกทำลาย วันนี้ (17) เจ้าหน้าที่ขององค์การฯ รายงานว่าการต่อสู้มีการยกระดับความรุนแรงและคืบใกล้เข้ามายังเขตโรงพยาบาล
พลเรือนหลายพันคนติดอยู่ในโรงพยาบาลและพื้นที่อื่นในกาซากำลังเผชิญสถานการณ์ที่ไม่สามารถหนีออกจากพื้นที่ปิดตายร่วมกัน สายป่านชีวิตของพวกเขากำลังจะขาดในอีกไม่กี่วันหรืออาจนับเป็นหลักไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
“เจ้าหน้าที่ของเราได้ยินเสียงปืน เสียงอาคารถล่ม และโดรนอยู่ตลอดเวลา เราเองก็ได้ยินเสียงเหล่านั้นลอดผ่านโทรศัพท์มาตอนที่เราติดต่อกัน ตอนนี้เส้นทางอพยพที่ปลอดภัยเพื่อเดินทางไปยังกาซาตอนใต้ยังไม่เกิดขึ้น” แอน เทย์เลอร์ (Ann Taylor) หัวหน้าภารกิจขององค์การฯ ในดินแดนปาเลสไตน์กล่าว
แอนเสริมต่อไปว่า “ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นต่างหวาดกลัว หลายวันที่ผ่านมาอาหารก็เริ่มขาดแคลนแล้ว และตอนนี้เด็กหลายคนเริ่มป่วยจากการดื่มน้ำเค็ม พวกเขาต้องอพยพตอนนี้”