กาซา: ความเหน็บหนาว ความหิวโหย และเสียงระเบิด
ตึกภายในพื้นที่เมืองกาซาถูกทำลาย - ดินแดนปาเลสไตน์ 2567 © MSF
แคโรไลน์ เซกวิน (Caroline Seguin) ผู้ประสานงานฉุกเฉินขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Doctors Without Borders / Médecins Sans Frontières - MSF) เดินทางถึงตอนเหนือของกาซา (Gaza Strip) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการต่อสู้หนักหน่วงมาแล้วกว่า 45 วัน หลังจากก่อนหน้านี้เกิดเหตุโจมตีรุนแรงโดยกองกำลังป้องกันอิสราเอล (Israeli forces) เมื่อต้นเดือนตุลาคม เธอมองย้อนกลับไปในสถานการณ์เลวร้ายเข้าขั้นหายนะที่เกิดขึ้นทางตอนเหนือและตอนใต้ของกาซา ส่งผลให้ประชาชนกว่า 1.7 ล้านคนต้องตกอยู่ใต้สถานการณ์ที่ไร้ความปลอดภัย
หลังจากวันที่ 6 ตุลาคม 2567 สำนักงานที่ว่าการพื้นที่กาซาเหนือ (governorate of North Gaza) ถูกโจมตีต่อเนื่องจากกองกำลังป้องกันอิสราเอล คุณยังสามารถเดินทางไปถึงเมืองกาซาซิตี้ (Gaza City) ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณทางใต้ของสำนักงานที่ว่าการพื้นที่กาซาเหนือ สถานการณ์ในพื้นที่เป็นอย่างไรบ้าง
แคโรไลน์ เซกวิน: เป็นเรื่องยากลำบากและอันตรายมากที่จะไปถึงตอนเหนือของกาซา เราต้องข้ามแนวระเบียงเขตเนตซาริม (Netzarim corridor) เส้นแบ่งที่แยกระหว่างกาซาเหนือและใต้ ถนนสายนี้เคยเป็นถนนธรรมดาๆ ตอนที่สงครามเพิ่งเริ่ม แต่ตอนนี้ถนนเส้นนี้มีความยาวถึง 8 กิโลเมตรและควบคุมโดยกองกำลังป้องกันอิสราเอล แม้ว่าองค์กรพัฒนาเอกชน (Non – governmental Organizations – NGOs) คอยประสานงานการทำงานกับกองกำลังป้องกันอิสราเอลเพื่อดูแลความปลอดภัยแล้ว แต่ก็ยังเกิดเหตุขึ้นอยู่บ่อยๆ และเมื่อเร็วๆ นี้ รถขององค์กรพัฒนาเอกชนหลายคันถูกโจมตีบริเวณถนนสายนี้
ไม่มีตึกที่ยังคงโครงสร้างแบบตึกสูงให้เห็นแม้แต่ตึกเดียว พื้นที่ส่วนมากไม่มีคนอยู่ นอกเหนือจากคนไม่กี่คนที่เดินหาของที่อาจเหลือจากบ้านที่ถูกทำลาย
เมื่อคืนวันที่ 28 พฤศจิกายนประมาณตี 1 เกิดระเบิดห่างจากคลินิกของเราประมาณ 70 เมตร สะเก็ดระเบิดโดนตึกแต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รอบๆ คลินิกขององค์การฯ มีผู้พลัดถิ่นจำนวนมากกว่า 25,000 คนอาศัยอยู่ การให้บริการทางการแพทย์เพิ่มสูงขึ้นเท่าตัวตั้งแต่ผู้พลัดถิ่นเดินมาถึงในเดือนตุลาคม
หลังเกิดเหตุโจมตีอย่างรุนแรงโดยกองกำลังป้องกันอิสราเอลในตอนเหนือของกาซา การต่อสู้รุนแรงมากและสถานการณ์หนักหน่วงเข้าขั้นหายนะ พื้นที่ดังกล่าวถูกโจมตีด้วยอากาศยานไร้คนขับ อากาศยานไร้คนขับแบบ 4 ใบพัด และระเบิด เพื่อนร่วมงานของเรา 2 คนยังคงติดอยู่ในเมืองเบต ลาเฮีย (Beit Lahia) และเมืองจาบาเลีย (Jabalia) โดยที่เรายังไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาในการอพยพออกมาได้ และเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน โรงพยาบาล คามาล อัดวัน (Kamal Adwan hospital) ถูกระเบิดอีกครั้ง ครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้รับบาดเจ็บ
รถพยาบาลขององค์การฯ ในเมืองกาซาซิตี้ ถูกทำลายในช่วงเดือนธันวาคม 2566 - ดินแดนปาเลสไตน์ 2566 © MSF
สนับสนุนการทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉินของพวกเรา
สนับสนุนพวกเราในการส่งต่อเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการช่วยชีวิตผู้ป่วยในสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วยการบริจาคตอนนี้
อะไรคือผลกระทบที่ตามมาจากการที่อิสราเอลสกัดกั้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จะเข้าไปยังกาซา
แคโรไลน์ เซกวิน: เราคิดว่าสิ่งที่แย่ที่สุดได้ผ่านไปแล้ว แต่ฉันกลับคิดว่าสิ่งที่แย่ที่สุดยังมาไม่ถึง วันนี้เราเจอปัญหาใหญ่หลายปัญหา ปัญหาแรกคือการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังกาซา เรายังมีปัญหาเดิมๆ อยู่คือการอนุมัติจากหน่วยงานประสานงานกิจกรรมการรัฐบาลในดินแดนยึดครองหรือโคแกต (COGAT) เพื่อนำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ ยา อาหารซึ่งถูกจัดส่งเข้าไปด้วยรถบรรทุกที่ต้องถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานของอิสราเอล
ระบบซับซ้อนที่ก่อให้เกิดอุปสรรคทางกายภาพและความยุ่งยากตามระเบียบราชการที่ถูกกำหนดและบังคับใช้โดยอิสราเอลเพื่อต้องการให้ความช่วยเหลือเข้าไปยังกาซาล่าช้าออกไป
การปล้นสะดมเพิ่มมากขึ้นและถูกวางแผนไว้ รถบรรทุกจำนวนไม่มากที่ผ่านเข้าไปพื้นที่ได้จะถูกปล้นอย่างเป็นระบบจากกลุ่มโจรที่ด่านเคเรม ชาลอมและด่านคิสซูฟิม (Kerem Shalom and Kissoufim crossings) เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน รถบรรทุกของโครงการอาหารโลก" (World Food Program-WFP) จำนวนทั้งหมด 109 คันที่เข้าพื้นที่กาซาถูกปล้นไปถึง 98 คัน วันที่ 30 พฤศจิกายน สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (United Nations Relief and Works Agency for Palestine Refugees - UNRWA) พยายามนำรถบรรทุกอาหารผ่านด่านเคเรม ชาลอม แต่ของทั้งหมดก็ถูกปล้นไปเช่นกัน
นอกเหนือจากเรื่องอาหารก็ยังมีปัญหาเรื่องเชื้อเพลิง เมื่อเร็วๆ นี้องค์การสหประชาชาติ (United Nations) สามารถนำรถบรรทุกจำนวนไม่กี่คันผ่านเข้าไปได้ แต่การลำเลียงยังมีความยากลำบากอยู่มาก เมื่อ 10 วันก่อนเราจำเป็นต้องลดการจัดส่งน้ำดื่มลงครึ่งหนึ่งเนื่องจากเชื้อเพลิงไม่เพียงพอสำหรับรถบรรทุก องค์การแพทย์ไร้พรมแดนยังคงเป็นหน่วยงานด้านมนุษยธรรมที่ใหญ่ที่สุดที่ยังคงจัดหาน้ำเข้าไปยังกาซา แต่ความต้องการมีมหาศาลและเราไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้ทั้งหมด
การห้ามการปฏิบัติงานของสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่ผ่านโดยสภาอิสราเอลเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมถือเป็นการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงและเป็นสาเหตุหลักของความกังวล เนื่องจากสำนักงานฯ เป็นแหล่งสนับสนุนชาวปาเลสไตน์และผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในกาซา สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ยังรับผิดชอบการดำเนินงานความช่วยเหลือของสหประชาชาติทั้งหมด ดังนั้นเราจึงยังไม่ทราบว่าจะปฏิบัติงานได้อย่างไรโดยไม่มีสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้เป็นตัวกลาง ผลกระทบเรื่องนี้ใหญ่หลวงมากเมื่อเกิดในพื้นที่กาซาซึ่งประสบกับความยากลำบากด้านสถานการณ์มนุษยธรรมอยู่แล้ว
เมื่อไม่สามารถเข้าถึงแก๊สหุงต้มได้ บรรดาคุณแม่จำเป็นต้องก่อกองไปโดยใช้พลาสติกเป็นเชื้อเพลงเพื่อเตรียมอาหารให้กับลูกของเธอ เพื่อประทังความหิวจากสภาพความเป็นอยู่อันแร้นแค้น - ดินแดนปาเลสไตน์ พฤศจิกายน 2567
องค์การฯ ทำงานในพื้นที่ตอนใต้ของกาซา ซึ่งมีประชากรจำนวน 1.7 ล้านคนอาศัยกันอยู่หนาแน่น สถานการณ์ความเป็นอยู่ของประชากรที่นั่นเป็นอย่างไรบ้างรวมถึงผลกระทบจากฤดูหนาวที่กำลังเริ่มต้น
แคโรไลน์ เซกวิน: มีคนจำนวน 1.7 ล้านคนต้องอยู่อย่างแออัดร่วมกันท่ามกลางฝน โคลน และความหิวโหย ขณะที่ยังมีการโจมตีโดยระเบิดใส่พวกเขา มันคือหายนะ
ฤดูหนาวมาเร็วและที่พักพิงที่มีก็ไม่ได้เหมาะกับการอยู่อาศัยที่ต้องผ่านทั้งแดด ลม ฝน ที่อยู่อาศัยไม่ได้ถูกสร้างมาให้รับมือกับอากาศหนาวและฝนตกหนักซึ่งเราต้องพบเจอในกาซาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บางพื้นที่ถูกน้ำท่วมทั้งหมด เต็นท์ส่วนหนึ่งที่อยู่ใกล้กับทะเลก็จมน้ำ
การสกัดกั้นการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและรถบรรทุกเชิงพาณิชย์จากเจ้าหน้าที่ทางการอิสราเอลทำให้เกิดความขาดแคลนโดยเฉพาะอาหาร ตลาดเริ่มไม่มีของจำหน่าย ร้านเบเกอรี่ต้องปิด และราคาของเริ่มสูงขึ้น ขนมปังแถวซึ่งมีราคาไม่กี่เซ็นต์เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ราคาปัจจุบันขึ้นไปที่ 5 เชคเกล (Shekels) หรือราวๆ 1 ยูโร และภาวะทุพโภชนาการ (malnutrition) ก็ยังเป็นความกังวลที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย
สถานการณ์ทั้งหมดทำให้เกิดความตึงเครียดสูงในชุมชนและครอบครัว ซึ่งนำไปสู่ความรุนแรง ทุกคนอยู่ในภาวะเครียดและกดดัน
เจ้าหน้าที่ขององค์การฯ พยายามทำงานตอบสนองความต้องการด้านการแพทย์โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลนาสเซอร์ (Nasser Hospital) ในเมืองข่าน ยูนิส (Khan Younis) ซึ่งเต็มอยู่ตลอดเวลา เรายังมีโรงพยาบาลสนามที่องค์การฯ จัดตั้งขึ้นในเมืองเดอีร์ อัลบาละห์ (Deir al-Balah) ตอนกลางของกาซา ซึ่งมีการให้บริการผู้ป่วยเด็ก สุขภาพทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์สำหรับหญิงตั้งครรภ์(sexual and reproductive health care) กายภาพบำบัด (physiotherapy) และการให้คำปรึกษาการแพทย์ทั่วไป ทั้งนี้ องค์การฯ กำลังเตรียมพร้อมเพื่อเพิ่มจำนวนเตียง เนื่องจากผู้ป่วยเด็กจะเพิ่มเพิ่มมากขึ้นจากอากาศที่หนาวและสภาพความเป็นอยู่
*หน่วยงานประสานงานกิจกรรมการรัฐบาลในดินแดนยึดครองหรือโคแกต (COGAT) มีหน้าที่เป็นกลไกในการประสานงานการดำเนินงานของรัฐบาลในพื้นที่ปาเลสไตน์ และเป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงกลาโหมอิสราเอล (Israeli Ministry of Defense)
**สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้