Skip to main content

    ปฏิบัติการขององค์การฯ ในสงครามอิสราเอล - กาซา

    องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Médecins Sans Frontières - MSF) กังวลเป็นอย่างยิ่งต่อการสังหารหมู่พลเรือนซึ่งลงมือโดยกลุ่มฮามาส และการโจมตีโต้ตอบอย่างหนักหน่วงใส่พื้นที่กาซาโดยอิสราเอล

    เพื่อคุ้มครองชาวกาซาในพื้นที่ องค์การฯ เรียกร้องให้มีการยุติการโจมตีโดยทันที และอนุญาตให้ขบวนเสบียงทางมนุษยธรรมสามารถเข้าไปในพื้นที่เพื่อความอยู่รอดของพลเมืองกาซา องค์การฯ เรียกร้องให้มีการคุ้มครองพลเมืองและสถานพยาบาลภายในพื้นที่ทั้งสองฝั่งตลอดเวลา

    • ผลของความรุนแรงที่ลุกลามขึ้นระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่ลุกลามขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากทั้งสองฝ่ายแล้วหลายพันคน และมีจำนวนผู้บาดเจ็บมากกว่านั้นอีกหลายเท่าตัว
    • ประชาชนทุกเพศทุกวัยจำนวนหลายล้านคนไม่สามารถหนีออกจากกาซาได้ และต้องเผชิญการลงโทษแบบเหมารวม (collective punishment) จากคำสั่งปิดล้อมพื้นที่ ซ้ำยังขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้
    • ในกาซาขณะนี้ โรงพยาบาลหลายแห่งล้นแน่นไปด้วยผู้ป่วยจำนวนมหาศาล สถานพยาบาลต่างๆ กำลังจะไม่มีเวชภัณฑ์ทางการแพทย์เหลือพอ โดยเฉพาะยาสงบประสาทสำหรับการผ่าตัด

     

    รายงานล่าสุด

    ปาเลสไตน์: ชาวกาซาพลัดถิ่นในเขตเวสต์แบงก์ที่รอคอยการกลับบ้าน
    ปาเลสไตน์: ชาวกาซาพลัดถิ่นในเขตเวสต์แบงก์ที่รอคอยการกลับบ้าน
    นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ตุลาคม พลเมืองกาซาหลายพันชีวิตที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอลถูกยกเลิกใบอนุญาตทำงาน จากข้อมูลของกระทรวงแรงงาน...
    แถลงการณ์: เจ้าหน้าที่นานาชาติขององค์การฯ เดินทางข้ามไปยังอียิปต์
    แถลงการณ์: เจ้าหน้าที่นานาชาติขององค์การฯ เดินทางข้ามไปยังอียิปต์
    เจ้าหน้าที่สากลขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Médecins Sans Frontières - MSF) ทั้งหมดได้ข้ามไปยังชายแดนอียิปต์ผ่านจุดผ่านแดนราฟาห์ (Rafah) หลังจากมีการจำกั...
    กาซา: การโจมตีต้องยุติทันทีเพื่อหยุดการนองเลือด
    กาซา: การโจมตีต้องยุติทันทีเพื่อหยุดการนองเลือด
    นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม กองกำลังอิสราเอลใช้ระเบิดโจมตีพื้นที่กาซาในระดับความรุนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พื้นที่ทางตอนเหนือพังราบเป็นหน้ากลอง...
    กาซา: ผู้บาดเจ็บในโรงพยาบาลกำลังนับถอยหลังสู่ความตาย
    กาซา: ผู้บาดเจ็บในโรงพยาบาลกำลังนับถอยหลังสู่ความตาย
    ในพื้นที่ทางตอนเหนือของกาซา ยังคงมีสถานพยาบาลบางแห่งเปิดดำเนินการอยู่ภายใต้ความกดดันที่ไม่อาจจินตนาการได้ การโจมตีอย่างต่อเนื่องของฝั่งอิสราเอลนำไปสู่...
    กาซา: หลักมนุษยธรรมต้องดำรงอยู่ในพื้นที่กาซา
    กาซา: หลักมนุษยธรรมต้องดำรงอยู่ในพื้นที่กาซา
    จดหมายเหตุถึงวิกฤติกาซา จากดร. คริสตอส คริสตู (Christos Christou) ประธานสากล องค์การแพทย์ไร้พรมแดน(Doctors Without Borders / Médecins Sans Frontières ...
    กาซา: การใช้ความรุนแรงแบบสุ่มและการลงโทษแบบเหมารวมต้องยุติลง
    กาซา: การใช้ความรุนแรงแบบสุ่มและการลงโทษแบบเหมารวมต้องยุติลง
    ศูนย์กาซา บาร์เซโลนา บรัสเซลส์ และปารีสวันที่ 12 ตุลาคม 2566— องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Médecins Sans Frontières / Doctors Without Borders) รู้สึกตระหนกจ...
    กาซา: องค์การฯ เรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม
    กาซา: องค์การฯ เรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม
    แม้ว่าคำประกาศของทางรัฐบาลอิสราเอลมีการชี้แจ้งว่ามีพื้นที่ปลอดภัยภายในฉนวนกาซาสำหรับประชากรที่ยังคงติดอยู่ทางภาคเหนือ หากในความเป็นจริงพวกเขายังเสี่ยง...
    กาซา: ภารกิจขององค์การแพทย์ไร้พรมแดนและการบริจาคสิ่งของที่จำเป็น
    กาซา: ภารกิจขององค์การแพทย์ไร้พรมแดนและการบริจาคสิ่งของที่จำเป็น
    องค์การแพทย์ไร้พรมแดนกำลังจัดเตรียมยาและเวชภัณฑ์เพื่อบริจาคให้กับโรงพยาบาลและสถานพยาบาลบริเวณฉนวนกาซา ภายหลังจากเหตุความรุนแรงที่อุบัติขึ้นในวันเสาร์ท...

    เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองติดอาวุธของปาเลสไตน์ได้เปิดฉากโจมตีอิสราเอล ซึ่งภายหลังให้เหตุผลว่าเป็นการตอบโต้ที่ทางการอิสราเอลบุกเข้าไปในมัสยิดอัลอักศอ (Al-Aqsa Mosque) และจากการรุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องจากชาวอิสราเอลที่มาตั้งถิ่นฐาน

    การโจมตีส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,000 คน และผู้คนมากกว่า 100 คนถูกจับไปเป็นตัวประกัน โดยทางกองทัพอิสราเอลก็ได้โต้ตอบด้วยการโจมตีทางอากาศหลายระลอกใส่พื้นที่กาซา ในวันรุ่งขึ้น อิสราเอลได้ประกาศภาวะสงคราม และภายหลังยังได้ออกคำสั่งปิดล้อมกาซาอย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งรวมไปถึงห้ามไม่ให้มีการขนส่งปัจจัยดำรงชีพ เช่นน้ำดื่มและอาหารเข้าไปในพื้นที่

    วันที่ 13 ตุลาคม อิสราเอลออกประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ตอนเหนือของกาซาซึ่งมีจำนวนนับล้านคน อพยพหลบหนีลงไปทางใต้ภายใน 24 ชั่วโมง ชาวปาเลสไตน์หลายพันคนมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ตอนใต้ของกาซา จากคำเตือนของอิสราเอลให้ออกจากพื้นที่ตอนเหนือ ทว่าปลายทางของพวกเขาก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน เพราะทางอิสราเอลได้โจมตีทางอากาศและทิ้งระเบิดใส่พื้นที่ตอนใต้อย่างหนักหน่วง

    วันที่ 21 ตุลาคม หลังจากการเจรจาของหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จุดข้ามแดนราฟาห์ (Rafah) ระหว่างพื้นที่กาซาและประเทศอียิปต์ได้เปิดออกระยะหนึ่งเพื่อให้รถบรรทุกขนส่งด้านมนุษยธรรม 20 คันเข้าไปในพื้นที่ ตามมาด้วยรถบรรทุกอีก 14 คันในวันรุ่งขึ้น ซึ่งจำนวนรถบรรทุกที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในฉนวนกาซาในเวลานี้นับเป็นเพียงเศษเสี้ยวของปริมาณที่เคยเข้าไปในเขตกาซาได้ในแต่ละวัน

    วันที่ 3 พฤศจิกายน เชื้อเพลิงในสถานพยาบาลที่ใช้สำหรับการทำงานการแพทย์มีปริมาณน้อยมาก ส่งผลให้โรงพยาบาลบางส่วนภายในฉนวนกาซาเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องเป็นระยะ จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาล 14 จาก 35 แห่งในพื้นที่ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป นั่นหมายความว่า 40% ของโรงพยาบาลไม่สามารถดำเนินงานได้ในช่วงเวลาที่ความต้องการการรักษาพยาบาลมีมหาศาล ด้านโรงพยาบาลความร่วมมือตุรกี-ปาเลสไตน์ (Turkish-Palestinian Friendship) ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ซึ่งองค์การฯ ให้การสนับสนุนด้านการดูแลสุขภาพจิต ได้ปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เนื่องจากขาดแคลนเชื้อเพลิง นี่เป็นโรงพยาบาลของรัฐเพียงแห่งเดียวสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งในละแวกนี้ ตอนนี้ชีวิตของคนเหล่านี้แขวนอยู่บนเส้นด้าย เรายังคงเรียกร้องให้ยุติการปิดล้อมเพื่อให้เสบียงด้านมนุษยธรรม รวมถึงปัจจัยที่จำเป็น เช่น เชื้อเพลิง สามารถข้ามเข้าไปในฉนวนกาซาได้อย่างต่อเนื่องและเพียงพอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าสิ่งของเหล่านี้เข้าถึงผู้คนที่มีความต้องการมากที่สุดโดยสวัสดิภาพ

    การปฏิบัติงานขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน

    ในช่วงแรกที่อิสราเอลเริ่มการโจมตี ทางองค์การฯ ได้มีการดำเนินงานในคลินิกของตนเองหนึ่งแห่ง และปฏิบัติงานสมทบในโรงพยาบาลอัลเอาดะฮ์ (Al-Awda hospital) โรงพยาบาลนัศรออ์ (Nasser hospital) และโรงพยาบาลอินโดนีเซียน (Indonesian hospital)

    องค์การฯ ดำเนินงานให้ห้องผ่าตัดศัลยกรรมในโรงพยาบาลอัลชีฟาใช้งานได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม เพื่อรองรับผู้ป่วยแผลไฟไหม้และผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บ ทางองค์การฯ ยังได้แจกจ่ายเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลอัล ซิฟา (Al-Shifa) และจะยังคงให้การสมทบแก่โรงพยาบาลต่างๆ ต่อไป ส่วนทีมงานขององค์การฯ ที่เมืองเจนิน (Jenin) เมืองเฮ็บรอน (Hebron) และเมืองนาบะลัส (Nablus) อยู่ระหว่างการเร่งประเมินทรัพยากรการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ในพื้นที่เวสต์แบงก์ เนื่องจากการปะทะกันเริ่มรุนแรงมากขึ้น

    การปฏิบัติภารกิจการแพทย์ในกาซาขององค์การฯ อยู่ภายใต้ข้อจำกัดหลายประการ ด้วยสถานการณ์ที่ยังไม่สงบและยังมีการยิงถล่มพื้นที่อย่างไม่อาจคาดเดาได้ นี่เป็นอุปสรรคใหญ่ที่ขวางการเข้าบรรเทาสาธารณภัยและให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์

    ในขณะที่เพื่อนร่วมงานขององค์การฯ บางส่วนจำต้องเดินทางมุ่งหน้าไปทางใต้ ตามคำสั่งอันฟังไม่ขึ้นที่ให้อพยพออกจากพื้นที่ตอนเหนือของกาซา คนที่เหลือก็ยังคงอยู่ในพื้นที่เพื่อดำเนินภารกิจการรักษาชีวิตผู้คนต่อไป ทั้งที่โรงพยาบาลอัลชีฟา (Al-Shifa Hospital) ในเมืองกาซา และโรงพยาบาลอัลนัสซีร (Al-Nasser hospital) ทางตอนใต้ ในโรงพยาบาลอัลเอาดะฮ์ก็ยังมีทีมเจ้าหน้าที่การแพทย์ขององค์การฯ ประจำอยู่ที่แผนกผู้ป่วยใน นอกจากนี้องค์การฯ ได้ส่งมอบสิ่งของทางการแพทย์จากคลังพัสดุให้กับหน่วยงานภาครัฐด้านสาธารณสุขในท้องถิ่น

    เจ้าหน้าที่ชาวปาเลสไตน์ขององค์การฯ จำนวนมาก ที่ประจำอยู่ในกาซา เป็นส่วนหนึ่งของผู้รับกระทบจากการโจมตีเหล่านี้ บ้างก็ต้องเสียบ้านเรือนไป บ้างก็เผชิญกับสภาวะที่ญาติพี่น้อง คนในครอบครัวพลัดหลงหรือสูญหาย 

    ผลของการควบคุมช่องทางการเข้าออกเมืองโดยกำลังทหารมายาวนานกว่า 16 ปี ทำให้โครงสร้างทางสาธารณสุขของฉนวนกาซาอ่อนแเมื่อมีการปิดล้อมเบ็ดเสร็จเข้ามาซ้ำเติม ก็ทำให้ไม่มีเวลาให้ทั้งผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่การแพทย์ตั้งหลักหรือรับมือสำหรับการติดอยู่ในวงล้อมของการสู้รกรณีนี้ถือได้ว่าเป็นการขัดขวางอย่างจงใจมิให้ได้รับสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่บุคลากรการแพทย์หลักและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์เหล่านี้จะต้องสามารถผ่านถึงยังพื้นที่ได้โดยสะดวก

    ทางองค์การฯ จะยังคงจัดเตรียมเวชภัณฑ์ทางการแพทย์และสิ่งของบรรเทาทุกข์ รวมถึงระดมพลหน่วยช่วยเหลือฉุกเฉิน ให้พร้อมที่จะส่งเข้าไปยังกาซาเมื่อสถานการณ์เปิดช่องให้ทำเช่นนั้นได้

    องค์การฯ กับปฏิบัติภารกิจทางการแพทย์ในอิสราเอล

    องค์การฯ ทำงานในฐานะองค์กรด้านมนุษยธรรมทางการแพทย์ ซึ่งให้การช่วยเหลือกับผู้ได้รับผลกระทบทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติ  แต่ด้วยทรัพยากรในการดำเนินงานที่มีอยู่จำกัด จึงจำเป็นต้องจัดสรรตามความจำเป็นเร่งด่วนมากที่สุดก่อน ทางองค์การฯ ได้ติดต่อไปยังทางการของอิสราเอลและได้รับการตอบรับว่าทางอิสราเอลยังสามารถดำเนินการทางสาธารณสุขได้โดยไม่ขอรับการสนับสนุนการทำงานจากองค์กรสมทบ ขณะนี้องค์การฯ จึงยังไม่มีการปฏิบัติภารกิจการแพทย์ในอิสราเอล ในขณะที่ระบบสาธารณสุขของปาเลสไตน์ทั้งในเขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซาอยู่ในสภาพล้มลุกคลุกคลานมาตลอดกว่า 70 ปีที่ผ่านมาจากการถูกยึดครองดินแดน ประกอบกับการถูกปิดล้อมทางเข้าออกเป็นเวลาอีกกว่า 10 ปี  ศักยภาพในการบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานจึงมีไม่เพียงพอสำหรับพลเมืองทั้งหมด

    ปฏิบัติงานขององค์การฯ ในดินแดนปาเลสไตน์ก่อนหน้าการสู้รบในวันที่ 7 ตุลาคม

    นับตั้งแต่ปี 2532 เป็นต้นมา องค์การแพทย์ไร้พรมแดนได้ดำเนินการการรักษาเยียวยาทั้งสุขภาพกายและจิตกับผู้คนซึ่งประสบภัยสงครามที่ยืดเยื้อยาวนานในดินแดนปาเลสไตน์ ทางองค์การฯ มีทีมงานประจำอยู่ที่โรงพยาบาลจำนวน 3 แห่งและคลินิกเวชกรรมอีกหลายแห่งในกาซา ให้การสมทบในการดูแลรักษาผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บและผู้ป่วยมีบาดแผลไฟไหม้โดยบุคลากรการแพทย์จากหลากสาขา ทั้งทางศัลยศาสตร์ กายภาพบำบัด การให้กำลังใจเชิงจิตวิทยา กิจกรรมบำบัด และสุขศึกษา  องค์การฯ ยังได้ดำเนินโครงการด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง (reconstructive surgery) ตั้งแต่ปี 2561 ในพื้นที่ตอนเหนือของกาซา

    บุคลากรทางการแพทย์ขององค์การฯ ที่ปฏิบัติงานอยู่ในกาซา

    องค์การฯ ได้รับข้อมูลที่ยืนยันว่า ทีมงานนานาชาติจำนวนราว 20 คนซึ่งประจำอยู่ในพื้นที่ตอนเหนือของกาซา  ได้เคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ตอนใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเวลากลางคืนวันพฤหัสบดีที่ 12 ถึงวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม  เพื่อรอการอพยพผ่านทางอียิปต์ต่อไป

    ในส่วนเจ้าหน้าที่ชาวปาเลสไตน์ขององค์การฯ นั้น ยังคงมีอุปสรรคในการทราบถึงสถานะที่แน่ชัดของทั้งกว่า 300 ชีวิต  อย่างไรก็ดีมีรายงานว่าบางส่วนอยู่ระหว่างการเดินทางออกจากพื้นที่เพื่อมุ่งหน้าสู่ทางใต้พร้อมกับสมาชิกครอบครัว  ซึ่งองค์การแพทย์ไร้พรมแดนกำลังดำเนินการจัดหาที่พักชั่วคราวให้แก่พวกเขา  ในขณะที่ส่วนที่เหลือ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการแพทย์ ก็ยังคงอยู่ในพื้นที่ตอนเหนือเพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บต่อไป  องค์การฯ ยังคงติดตามสถานะของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง

    คำสั่งของกองทัพอิสราเอลให้อพยพออกจากพื้นที่ ซึ่งมีต่อผู้คนในพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซาจำนวน 1.1 ล้านคน  จึงเป็นคำขาดที่ไม่ไยดีต่อผลและไม่อาจรับในเงื่อนไขได้  อีกทั้งยังจะเป็นการซ้ำเติมวิกฤตการณ์แห่งมนุษยธรรมที่มีอยู่แล้วให้เลวร้ายหนักลงไปอีก หากจะให้ผู้คนจำนวนมากเช่นนั้นต้องไปเบียดอัดกันอยู่ในพื้นที่เพียงไม่กี่ตารางกิโลเมตร  

    สถานการณ์ในเขตเวสต์แบงก์

    การปะทะอย่างรุนแรงระหว่างกองกำลังอิสราเอล ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอล และชาวปาเลสไตน์เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเยรูซาเลม เฮ็บรอน นาบะลัส และรอมัลลอฮ์ (Ramallah) ณ วันที่ 23 ตุลาคม นับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นในวันที่ 7 ตุลาคม ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 94 รายและบาดเจ็บ 1,700 ราย กองทัพอิสราเอลได้ประกาศให้เขตเวสต์แบงก์เป็นพื้นที่ปิด จุดตรวจเพื่อเข้าพื้นที่ยังคงปิดทำการ และไม่อนุญาตให้คนงานข้ามไปยังอิสราเอล ใบอนุญาตทำงานของชาวปาเลสไตน์ถูกระงับ และหลายคนถูกสั่งให้ออกจากอิสราเอล ทีมงานของเราในเฮ็บรอนได้ติดต่อกับกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลในเขตเวสต์แบงก์เพื่อประเมินความต้องการในแต่ละวัน

    ในขณะเดียวกัน องค์การฯ กำลังเตรียมสิ่งของบริจาคบางส่วนเพื่อส่งมอบให้กับสถานพยาบาลหลายแห่ง นอกจากนี้ เรายังให้การสนับสนุนด้านสุขภาพจิตระยะไกลแก่ประชาชน รวมถึงบริการให้คำปรึกษาทางจิตเวชเบื้องต้นและลดความเครียดสำหรับผู้คนที่ยังต้องใช้ชีวิตกลางความขัดแย้งนี้ นอกจากนี้เรายังติดต่อกับส่วนกลางของชุมชนในกรณีที่มีการขอการสนับสนุน

    Regions in Palestine where MSF had projects in 2022

    ลำดับเวลาของเหตุขัดแย้ง

    สนับสนุนการทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉินของพวกเรา

    สนับสนุนพวกเราในการส่งต่อเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการช่วยชีวิตผู้ป่วยในสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วยการบริจาคตอนนี้