ถนนรอบโรงพยาบาลนาสเซอร์ในเมืองข่านยูนิสจมอยู่ใต้น้ำเน่าเสีย ระบบการระบายน้ำได้รับความเสียหายภายหลังจากการโจมตีด้วยระเบิดและการต่อสู้อย่างรุนแรงจากฝั่งกองทัพอิสราเอลเป็นระยะเวลาหลายเดือน - ดินแดนปาเลสไตน์ พฤษภาคม 2567 © Ben Milpas/MSF
สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ คือหน่วยงานที่ประคองชีวิตชาวปาเลสไตน์ หากมีการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ การห้ามไม่ให้มีการดำเนินงานจะส่งผลต่อสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในกาซาและเวสต์แบงก์ทั้งปัจจุบันและรุ่นถัดไปจะต้องรับผลกระทบ องค์การฯ ประณามการตัดสินใจครั้งนี้ ซึ่งเป็นการออกคำสั่งครั้งที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่มีการรณรงค์เพื่อต่อต้านการทำงานของสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯคริสโตเฟอร์ ล็อคเยียร์ เลขาธิการองค์การฯ
สนับสนุนการทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉินของพวกเรา
สนับสนุนพวกเราในการส่งต่อเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการช่วยชีวิตผู้ป่วยในสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วยการบริจาคตอนนี้
กฎหมายฉบับใหม่ที่เพิ่งผ่านการลงคะแนนเสียงจะทำให้การดำเนินงานของสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ แทบเป็นไปไม่ได้ในกาซาหรือเวสต์แบงก์ การประสานงานกับทางรัฐบาลอิสราเอลจะล่าช้าและการอนุญาตให้เข้าออกพื้นที่จะถูกปฏิเสธ สิ่งเหล่านี้จะกีดขวางการส่งต่อความช่วยเหลือของสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ ทั้งจากภายนอกเข้าไปในกาซาและภายในพื้นที่กาซาเอง เนื่องจากสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ คือผู้บริหารจัดการความช่วยเหลือเกือบจะทั้งหมดจากองค์การสหประชาชาติ (United Nations หรือ UN) เพื่อส่งเข้าไปยังกาซา
สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ คือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในกาซา โดยมากกว่าครึ่งของชาวกาซาอาศัยการรักษาพยาบาลที่จำเป็นจากสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ อาทิ การรักษาโรคเรื้อรัง สุขภาพแม่และเด็ก และการฉีดวัคซีน ในแต่ละวันทีมแพทย์ของสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ ในกาซาได้ให้คำปรึกษาทางการแพทย์กว่า 15,000 ครั้ง การสั่งห้ามไม่ให้สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ ดำเนินงานต่อไป ยิ่งถ่างช่องว่างในระบบสาธารณสุขของกาซาที่ถูกทำลายไปแล้วให้เลวร้ายลงไปอีก ส่งผลทางลบต่อชีวิตของชาวปาเลสไตน์ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม หากไม่มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน อาจมีชาวกาซาที่เสียชีวิตเพิ่มจากโรคที่ป้องกันได้และจากอาการที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การพลัดถิ่น
บริการที่สำคัญ อย่างการจัดการภายในค่ายผู้ลี้ภัย การบริการสุขภาพ การศึกษา และกิจกรรมด้านสังคมทั่วทั้งเวสต์แบงก์ยังเสี่ยงต่อภาวะขาดเสถียรภาพภายใต้กฎหมายฉบับนี้ การสร้างบรรทัดฐานใหม่เช่นนี้จะกลายเป็นตัวอย่างอันเลวร้ายสำหรับเหตุการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่อื่น เมื่อรัฐบาลของประเทศนั้นๆ ต้องการยุติบทบาทขององค์การสหประชาชาติในพื้นที่
เป็นเวลาหลายเดือนที่ผู้นำและองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงองค์การฯ ได้แจ้งเตือนถึงว่ากฎหมายใหม่เหล่านี้มีผลลัพธ์ที่เลวร้ายเพียงใด แต่อิสราเอลเลือกผลักดันมาตรการที่จะทำลายการส่งต่อความช่วยเหลือที่สำคัญ เป็นภัยต่อชีวิตของชาวปาเลสไตน์ และทวีความรุนแรงการลงโทษแบบเหมารวมที่พวกเขาเผชิญอยู่
การลงคะแนนเสียงครั้งนี้ตอกย้ำว่าอิสราเอลกำลังสร้างอุปสรรคทั้งทางเอกสารราชการและการลงพื้นที่ทำงานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อจำกัดปริมาณความช่วยเหลือเข้าไปยังกาซา และจงใจกระทำการที่ขัดกับข้อกล่าวอ้างของอิสราเอลที่แจ้งว่านี่คือการอำนวยความสะดวกในการนำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังกาซา
