กาซา: วิกฤตขาดแคลนเวชภัณฑ์ในสถานพยาบาลทั่วกาซา
ภายในโรงพยาบาลนาสเซอร์หลังจากการรุกรานจากกองทัพอิสราเอล โดยในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางกองทัพได้ออกคำสั่งอพยพออกจากพื้นที่โรงพยาบาลและพื้นที่โดยรอบ ซึ่งตกอยู่กลางดงการต่อสู้อย่างรุนแรงมาหลายสัปดาห์ก่อนหน้า - ดินแดนปาเลสไตน์ เมษายน 2567 © Ben Milpas/MSF
คณะเจ้าหน้าที่องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (MSF - Médecins Sans Frontières) ในกาซา (Gaza) กำลังเผชิญกับวิกฤตการขาดแคลนยาและอุปกรณ์ที่จำเป็น เนื่องจากไม่สามารถนำเวชภัณฑ์เข้าสู่กาซาได้ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน การปิดจุดผ่านแดนเมืองราฟาห์ (The Rafah Crossing) หลังจากการรุกคืบอย่างต่อเนื่องของกองทัพอิสราเอลในพื้นที่ตอนใต้ของกาซาเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาประกอบกับความล่าช้าจากระเบียบขั้นตอนการปฏิบัติงานของทางการอิสราเอล ส่งผลให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมผ่านจุดผ่านแดนเคเรม ชาลอม (Kerem Shalom) เป็นไปด้วยความล่าช้า
การจำกัดเส้นทางภาคพื้นดินนี้ทำให้แถวรถบรรทุกที่จะเข้าไปในพื้นที่หนาแน่นและเกิดความล่าช้าในการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังกาซา และถึงความช่วยเหลือจะเข้าสู่พื้นที่ได้ในที่สุดก็ตาม แต่สถานการณ์ความไม่มั่นคงในพื้นที่มักเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงพื้นที่ที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ
แม้ว่าความต้องการด้านการแพทย์ยังคงพุ่งสูงขึ้นทั่วฉนวนกาซา แต่หากยังไม่มีการเพิ่มปริมาณเวชภัณฑ์จำนวนมากในอีกไม่กี่วันนี้ องค์การฯ อาจต้องงดหรือลดการให้บริการทางการแพทย์บางชนิดในกาซาลง
“เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ของเราเหลือน้อยมาก เนื่องจากทางการอิสราเอลจำกัดความช่วยเหลือที่จะเข้าไปยังกาซา หากเราไม่สามารถจัดส่งเวชภัณฑ์เข้าไปได้ในเร็ววันนี้ เราอาจต้องงดการให้บริการทางการแพทย์ สิ่งนี้เป็นความจริงที่ยากเกินจะจินตนาการได้ เมื่อพิจารณาถึงความจำเป็นของประชากรกาซานับพันคนที่ยังต้องได้รับบริการทางการแพทย์
เรามีผู้ป่วยที่มีแผลไฟไหม้รุนแรง กระดูกหักแบบเปิด และไม่มีแม้ยาแก้ปวดเพียงพอที่จะบรรเทาความเจ็บปวดของพวกเขาได้ ในโรงพยาบาลนาสเซอร์ (Nasser Hospital) และโรงพยาบาลอัล อักซอ (Al Aqsa Hospital)คณะเจ้าหน้าที่ต้องลดความถี่ในการทำแผลให้ผู้ป่วยที่มีแผลไหม้ชนิดรุนแรง เนื่องจากขาดแคลนผ้าก๊อซปลอดเชื้อ (Sterile Compress Gauzes) ซึ่งอาจทำให้บาดแผลเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มขึ้น"
จากการที่ประชากรกาซาจำนวนร้อยละ 75 ต้องพลัดถิ่นและอาศัยอยู่ในสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้าย คณะเจ้าหน้าที่องค์การแพทย์ไร้พรมแดนตรวจพบจำนวนผู้ป่วยโรคผิวหนัง เช่น โรคหิด พุ่งสูงขึ้นมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ยาสำหรับรักษาอาการเหล่านี้เหลือน้อยมากจนน่ากังวล ที่ศูนย์สุขภาพ อัล อะธาร์ (Al Attar Health Care Centre) เมือง ข่าน ยูนิส (Khan Younis) ซึ่งเพิ่งเปิดทำการเมื่อเร็วๆ นี้ องค์การฯ ไม่สามารถให้บริการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ทั่วไปเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจากขาดแคลนสิ่งของและยาที่จำเป็นต่อการดำเนินงาน
ขณะที่เรามีรถบรรทุก 6 คัน บรรทุกสิ่งของจำเป็นปริมาณ 37 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสิ่งของทางการแพทย์ที่จำเป็น แต่รถเหล่านี้จอดรอที่จุดผ่านแดนเคเรม ชาลอม ฝั่งประเทศอียิปต์มาตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน ไม่สามารถข้ามไปยังกาซาซึ่งเป็นพื้นที่ที่หลายชีวิตรอความช่วยเหลืออยู่ได้
นอกจากนี้ ยังมีรถบรรทุกอีกมากกว่า 1,200 คันที่จอดเรียงรายรอคิว ณ จุดผ่านแดนแห่งนี้ สถานการณ์นี้ยากที่จะทำความเข้าใจและยอมรับได้ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ต่างอะไรกับการขอให้นักดับเพลิงยืนดูบ้านที่เต็มไปด้วยผู้คนกำลังถูกไฟเผาไหม้และขัดขวางไม่ให้เขาเข้าไปดับไฟ
ทางการอิสราเอลต้องเร่งเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มเติมโดยด่วน เพื่อบรรเทาความแออัดที่จุดผ่านแดนเคเรม ชาลอม และเพิ่มความช่วยเหลือที่จะเข้าไปยังฉนวนกาซาในแต่ละวันให้ได้ นอกจากนี้ เรายังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายให้คำมั่นด้านความปลอดภัยในการเคลื่อนย้ายความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังฉนวนกาซา วิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นกิลเมตต์ โธมัส ผู้ประสานงานทางการแพทย์
สนับสนุนการทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉินของพวกเรา
สนับสนุนพวกเราในการส่งต่อเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการช่วยชีวิตผู้ป่วยในสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วยการบริจาคตอนนี้