เสบียงที่จำเป็นบางส่วนมาถึงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ เวชภัณฑ์ที่องค์การฯ สามารถขนส่งได้ แต่ปริมาณยังไม่เพียงพอสำหรับความต้องการของผู้ที่กำลังเผชิญกับภาวะทุพโภชนาการในค่ายลี้ภัยซัมซัม ซึ่งมีประชากรประมาณ 450,000 คน
วิกฤตินี้ได้ดึงดูดความสนใจจากนานาชาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากคณะกรรมการทบทวนการขาดแคลนอาหารระบบการแบ่งความมั่นคงทางอาหารบนฐานของภาวะวิกฤติที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ (IPC Famine Review Committee) ได้สรุปเมื่อเดือนสิงหาคมว่า ภาวะอดอยากกำลังเกิดขึ้นในค่ายซัมซัม และการประเมินภาวะทุพโภชนาการขององค์การฯ เองก็ได้พบว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของเด็ก มีภาวะทุพโภชนาการมาตั้งแต่การสำรวจหลายครั้งก่อนในช่วงต้นปี หรือราวทุกๆ 2 ชั่วโมงจะมีเด็ก 1 คนกำลังเสียชีวิตด้วยสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับทุพโภชนาการ และเนื่องด้วยวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้นยังจำกัดความสามารถในการเก็บข้อมูลขององค์การฯ ทำให้ปัจจุบันยังไม่ทราบอัตราการเสียชีวิตของเด็กที่แท้จริง
“ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเราเห็นโอกาสในการทำงานที่มากขึ้น รถบรรทุกสามารถมาถึงค่ายหลังมีการปิดล้อมพื้นที่โดยรอบค่ายเป็นเวลานานหลายเดือน อย่างไรก็ตาม ของที่มาส่งก็ยังมีปริมาณไม่เพียงพอ” ลาชาริเตกล่าว “นี่เป็นสัญญาณที่ดีที่สะท้อนว่าคู่สงครามตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์และได้เริ่มปล่อยรถบรรทุกให้ผ่านเข้ามาในค่าย”
“แต่ถ้าเรากำลังพูดถึงการยกระดับการทำงานที่ก้าวกระโดด องค์กรที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะต้องเร่งมือเสริมความพยายาม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทางการทูตทั้งหมดที่ได้เจรจาต่อรองกับฝ่ายร่วมสงครามจะต้องโน้มน้าวให้พวกเขารับประกันว่าการลำเลียงขนส่งจะยังทำได้ในเดือนต่อๆ ไป"
คำอธิบาย: การจัดหาอาหารฉุกเฉินให้เพียงพอสำหรับ 1 เดือน (ประมาณ 500 แคลอรี่/วัน/คน) ให้แก่ 450,000 คนในซัมซัมซึ่งต้องใช้อาหารราว 2,000 ตัน และต้องใช้รถบรรทุกกว่า 100 คันในการลำเลียงขนส่งอาหารเหล่านั้น
