Skip to main content

    ซูดาน: หลังความรุนแรงนานนับปี องค์การฯ ยุติการบริการในโรงพยาบาลเทอร์คิช

    Facade of Khartoum’s Turkish hospital where MSF suspends delivery of vital care

    นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น โรงพยาบาลเทอร์คิชคือกำลังสำคัญของระบบสาธารณสุข โดยผู้ป่วยไม่ได้มีเพียงผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองคาร์ทูม แต่รวมถึงผู้ป่วยที่มาจากเมืองวาด มาดานี ในรัฐอัล จาซีรา อีกด้วย - พฤษภาคม 2567 © MSF

    สถานการณ์ในโรงพยาบาลเทอร์คิช ซึ่งตั้งอยู่ในเขตที่กองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (RSF) ควบคุมอยู่ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้อีกแล้ว ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาได้มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นหลายครั้งทั้งในและนอกอาคารและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงสวัสดิภาพชีวิตของเจ้าหน้าที่ถูกคุมคามซ้ำแล้วซ้ำเล่าแคลร์ นิโคเลท (Claire Nicolet) หัวหน้าฝ่ายกิจกรรมในสถานการณ์ฉุกเฉินขององค์การฯ ในซูดานกล่าว

    เหตุการณ์ล่าสุด เกิดขึ้นในคืนของวันที่ 17 และ 18 เดือนมิถุนายน ผู้บาดเจ็บจากการต่อสู้นับสิบถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเทอร์คิช ระหว่างที่ทีมแพทย์ของพวกเราถูกปลุกอย่างเร่งรีบจากการรัวยิงปืนคาลาชินิคอฟเข้ามาบริเวณห้องนอน ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่เช่นนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ โรงพยาบาลและสถานพยาบาลควรได้รับการคุ้มครองและเคารพจากคู่สงคราม เนื่องจากเป็นที่พักพิงของผู้ป่วยและผู้ได้รับบาดเจ็บ สถานที่ที่เจ้าหน้าที่สามารถส่งต่อการรักษาได้อย่างปลอดภัย พวกเขาไม่สามารถใช้ชีวิตบนความเสี่ยงในขณะที่กำลังพยายามช่วยชีวิตผู้อื่นไปด้วยได้

    ตลอดปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ขององค์การฯ ที่ทำงานในโรงพยาบาลเทอร์คิชถูกคุกคามบ่อยครั้ง ทั้งในโรงพยาบาลและบนถนนระหว่างเดินทางไปทำงาน หลายคนถูกขู่จับกุม เมื่อต้นเดือนมิถุนายน กลุ่มชายติดอาวุธ 2 คนเข้ามาจับตัวเจ้าหน้าที่องค์การฯ คนหนึ่งในโรงพยาบาล มีการพาชายคนนั้นไปยังสถานที่ที่ไม่รู้จัก และถูกทำร้ายทุบตีจนบาดเจ็บสาหัส

    ทีมงานเหนื่อยล้าทั้งกายและจิตใจ เนื่องจากการทางการซูดานได้ออกข้อบังคับเกี่ยวกับการปิดล้อมตั้งแต่เดือนกันยายน สั่งห้ามการขนส่งเวชภัณฑ์และบุคลากรด้านมนุษยธรรมเข้าเขตควบคุมของกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว ทีมที่ปฏิบัติงาน ณ โรงพยาบาลเทอร์คิชทำงานอย่างไม่มีการหยุดพักมานับ 10 เดือน การปิดล้อมส่งผลให้พวกเราไม่สามารถนำพาทีมใหม่เข้าไปแทนที่เจ้าหน้าที่ทีมเดิมได้ และพวกเขายังคงต้องทำงานอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อที่จะทำให้โรงพยาบาลยังเปิดให้บริการได้ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก
    แคลร์ นิโคเลท หัวหน้าฝ่ายกิจกรรมฉุกเฉิน

    โรงพยาบาลเทอร์คิชยังคงเปิดให้บริการอยู่เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขประจำการอยู่ อย่างไรก็ตามแผนกผ่าตัดจะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้เนื่องจากผู้รับผิดชอบหลายส่วนคือเจ้าหน้าที่ขององค์การฯ ที่อพยพออกไป และอนาคตของโรงพยาบาลแห่งนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นับตั้งแต่สงครามได้เริ่มขึ้น โรงพยาบาลเทอร์คิชถือเป็นส่วนสำคัญของระบบสุขภาพที่ยังให้บริการผู้ป่วยไม่ใช่แค่ในเมืองคาร์ทูม แต่จากพื้นที่ห่างไกลอย่างเมืองวาด มาดานี (Wad Madani) ในรัฐอัลจาซีรา (Al Jazirah)อีกด้วย ซึ่งเป็นที่ที่องค์การฯ ถูกบีบให้หยุดให้บริการในเดือนพฤษภาคม ปี 2567 เนื่องจากเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอุปสรรคในการนำเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เข้าไปยังพื้นที่คล้ายกับผลกระทบที่เกิดขึ้นในเมืองคาร์ทูม 

    ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ปี 2566 ก่อนที่องค์การฯ จะตั้งห้องฉุกเฉินและขยายห้องผ่าตัดในโรงพยาบาลเทอร์คิช สถานที่แห่งนี้เคยเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้หญิงและเด็กมาก่อน เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ของการผ่าตัดทั้งหมดในโรงพยาบาลในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นการผ่าตัดคลอดสำหรับช่วยชีวิตเด็กและผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์และการคลอด แต่เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้นซ้ำซ้อน ทำให้โรงพยาบาลต้องหยุดบริการผ่าตัดในช่วงเวลานั้น

    องค์การฯ ยังให้บริการดูแลก่อนและหลังคลอด การวางแผนครอบครัว เปิดหน่วยผู้ป่วยเด็กขั้นวิกฤต หน่วยบำบัดโภชนาการสำหรับผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการรุนแรงเฉียบพลัน และหน่วยทารกแรกเกิด อันเป็นหน่วยทารกแรกเกิดเพียงแห่งเดียวในเมืองคาร์ทูม ในตอนนี้การทำงานภาคพื้นเพื่อสนับสนุนกิจกรรมเหล่านี้ขององค์การฯ ก็ถูกระงับไปแล้วเช่นกัน

    Inside Khartoum’s Turkish hospital where MSF suspends delivery of vital care after more than a year of violent incidents at the facility

    บรรยากาศภายในโรงพยาบาลเทอร์คิช เมืองคาร์ทูม ซึ่งองค์การแพทย์ไร้พรมแดนจำเป็นต้องยุติการให้บริการเนื่องจากเหตุความรุนแรงภายในสถานพยาบาลนานนับปี - ซูดาน พฤษภาคม 2567

    โรงพยาบาลแพทย์บาชาร์ (Bashair) ในเมืองคาร์ทูม ซึ่งเป็นโรงพยาบาลอีกแห่งที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การฯ เผชิญกับการบุกรุกพร้อมอาวุธหลายครั้งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ระหว่างเดือนตุลาคม ปี 2566 และเดือนมกราคม ปี 2567 องค์การฯ ถูกบังคับให้ระงับปฏิบัติการผ่าตัดในโรงพยาบาล แต่องค์การฯ ยังคงดำเนินงานต่อไปแม้จะมีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น อาจกล่าวได้ว่าสถานการณ์ด้านความปลอดภัยโดยทั่วไปในซูดานย่ำแย่อย่างมาก โดยเฉพาะในเมืองคาร์ทูม

    องค์การฯ เรียกร้องให้คู่สงครามทุกฝ่ายปกป้องพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงโรงพยาบาลและสถานพยาบาล สำหรับโรงพยาบาลที่ยังคงเปิดให้บริการ การอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมและเวชภัณฑ์สามารถข้ามเข้าไปยังแนวหน้าของการปะทะมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ากทางการซูดานกลับปิดกั้นไม่ให้องค์การด้านมนุษยธรรมสามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ ทำให้สถานพยาบาลหลายแห่งต้องดิ้นรนเพื่อให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ การกระทำเหล่านี้ส่งผลให้ชีวิตและสุขภาพของหลายล้านคนในเมืองคาร์ทูมและพื้นที่อื่นทั่วประเทศตกอยู่ในความเสี่ยง