ซูดาน: ยาและเวชภัณฑ์ในสถานพยาบาลใกล้จะหมดลง
สถานการณ์ภายในโรงพยาบาลของเมือง El Fasher, North Darfur ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากจากเหตุการณ์ความขัดแย้งในซูดาน เมษายน 2023 © MSF/Ali Shukur
"ที่โรงพยาบาลที่เราให้การสนับสนุนด้านการปฏิบัติงานอยู่ มีผู้บาดเจ็บเข้ารักษาการรักษาแล้ว 279 ราย นับตั้งแต่การต่อสู้เริ่มปะทุขึ้นในวันเสาร์ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 44 ราย ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ ที่รวมถึงเด็กและเยาวชน ต่างได้รับบาดแผลจากกระสุนปืนหรือเศษกระสุนที่ขา หน้าท้อง หรือหน้าอก นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยอีกหลายคนที่ต้องการรับบริจาคเลือด โดยผู้ป่วยจำนวนมากต้องเข้ารับการรักษาบนพื้นทางเดิน เพราะเตียงไม่เพียงพอ
จวบจนถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงพยาบาล South ไม่สามารถรองรับการผ่าตัดได้เลย โรงพยาบาลแห่งนี้ คือโรงพยาบาลแม่และเด็ก ซึ่งเราเริ่มให้การสนับสนุนเมื่อปีที่แล้ว เพื่อช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของแม่ในเขตนี้ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่การต่อสู้ปะทุขึ้น เราต้องปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของโรงพยาบาล เพื่อให้สามารถรองรับการรักษาผู้บาดเจ็บได้
โรงพยาบาลแห่งอื่น ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองต้องปิดให้บริการ เนื่องจากอยู่ใกล้กับพื้นที่การสู้รบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถเข้าถึงโรงพยาบาลได้เนื่องจากความสถานการณ์ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้น ด้วยเหตุนี้ศัลยแพทย์จากโรงพยาบาลเหล่านั้นจึงเดินทางมายังโรงพยาบาล South เพื่อให้การรักษาทางการแพทย์แทน พวกเขาได้ทำการผ่าตัดผู้ป่วยไปแล้วหลายราย อย่างไรก็ตาม ยาและเวชภัณฑ์ในสถานพยาบาลใกล้จะหมดแล้ว เราสามารถเติมเสบียงได้อย่างเร็วที่สุดก็วันอังคาร ซึ่งเป็นช่วงที่คาดว่าการสู้รบน่าจะเบาบางลง แต่ถ้าเราไม่สามารถส่งยาและเวชภัณฑ์เพิ่มเติมไปยัง Darfur ได้ และถ้าเรายังคงได้รับผู้บาดเจ็บจำนวนมากเช่นนี้ คลังทางการแพทย์คงเพียงพอสำหรับระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น"
ในสถานการณ์เช่นนี้ การเข้าถึงสถานพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วน เพราะนี่คือวิธีที่จะช่วยชีวิตประชาชนจำนวนมากCyrus Paye ผู้ประสานงานโครงการ
สถานพยาบาลกำลังขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถเดินทางไปปฏิบัติงานได้
"ณ เวลานี้ สนามบินในซูดานปิดให้บริการทุกแห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วนับตั้งแต่การสู้รบเริ่มต้นขึ้น ดังนั้นเราจึงไม่สามารถส่งคลังทางการแพทย์เพิ่มเติมไปยังทางตอนเหนือของ Darfur หรือเดินทางเข้าประเทศได้ พวกเขาปิดพรมแดนทั้งหมด ดังนั้นหากสถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง และไม่มีการเปิดรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม จะมีการสูญเสียชีวิตไปมากกว่านี้แน่นอน"
ท่ามกลางสถานการณ์ความโกลาหล ห้องผ่าตัดเพียง 2 ห้องภายในโรงพยาบาลไม่สามารถรองรับจำนวนผู้บาดเจ็บที่หลั่งไหลเข้ามาได้
ก่อนหน้านี้ โรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งให้บริการด้านการผ่าคลอดฉุกเฉิน จะมีเคสเข้ารับบริการโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 3-5 ครั้งต่อวัน และมีการผ่าคลอดปกติมากกว่า 30 ครั้งในระยะเวลา 24 ชั่วโมง แต่ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ทำให้กระบวนการรักษาพยาบาลแม่และเด็กทุกอย่างต้องดำเนินอยู่ที่โรงพยาบาล South เพียงแห่งเดียว
นอกจากนี้ เราเพิ่งทราบว่า เมื่อคืนนี้โรงพยาบาลเด็กที่เราเคยส่งต่อเด็กแรกเกิดเข้ารับการรักษาถูกปล้นคลังอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่า ตอนนี้เราไม่มีสถานพยาบาลที่พอจะส่งต่อเด็กแรกเกิดที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด หรือเด็กที่คลอดก่อนกำหนดเลย และภายในโรงพยาบาล South เองก็ไม่มีตู้อบ ซึ่งจะทำให้เป็นเรื่องยากที่จะรักษาเด็กเหล่านั้นให้มีชีวิตอยู่ได้
ขณะนี้ ทีมงานของเรากำลังเร่งตรวจสอบความเป็นไปได้ในการนำยาและเวชภัณฑ์ และศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาปฏิบัติงานในซูดาน เพื่อให้การสนับสนุนเมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวยต่อการส่งมอบความช่วยเหลือทางการแพทย์ ซึ่งในขณะนี้ไม่สามารถทำได้
ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญและเร่งด่วนในการเข้าถึงสถานพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศให้ได้ เพราะนี่คือวิธีที่จะช่วยชีวิตประชาชนจำนวนมาก"