Skip to main content

    เยเมน: ชีวิตไม่ได้เป็นเพียงตัวเลข จำนวนผู้ป่วยโรคหัดสูงในเยเมนสูงขึ้นจนน่าตกใจ

    A 1 year-old girl is receiving treatment in Al Thawrah Hospital isolation center in Al Bayda after she contracted measles. Yemen, June 2023. © Aljunaid/MSF

    เด็กหญิงวัย 1 ขวบที่ติดเชื้อโรคหัด กำลังรับการรักษาที่ศูนย์พักคอยภายในโรงพยาบาลอัล โตราช์ (Al Thawrah) ในเมืองอัล ไบดา (Al Bayda) เยเมน มิถุนายน 2566 © Aljunaid/MSF

    ในปี 2565 องค์การฯ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับอัตราการติดเชื้อโรคชนิดอื่นที่สูงขึ้นในเด็กของประเทศเยเมนที่เกี่ยวข้องกับภาวะทุพโภชนาการ เนื่องจากภาวะนี้ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีน จะยิ่งเสี่ยงกับภาวะอันตรายถึงชีวิตจากโรคหัด

    สถานการณ์ที่ประชาชนเผชิญความเสี่ยงที่อาจถึงแก่ชีวิตจากโรคหัด ทั้งที่โรคนี้เป็นโรคที่ป้องกันได้ ทำให้เห็นชัดเจนถึงความขาดแคลนการดูแลด้านสาธารณสุขที่จำเป็น และสภาวะความยากจนทางเศรษฐกิจของประชาชนของประเทศเยเมน ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตของประชาชนอย่างที่เกิดขึ้นกับ ไอชา (Aisha) และอับดุลเลาะห์ (Abdullah) บุตรชายอายุ 3 ขวบของเธอ

    อับดุลเลาะห์ทรมานจากอาการเจ็บคอ ไข้สูง และตาแดง ต่อมาก็มีผดผื่นแดงขึ้นตามลำตัว ตอนที่ฉันพาลูกไปคลินิก หมอบอกว่าเขาป่วยเป็นโรคหัดที่มีภาวะแทรกซ้อนและจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล อับดุลเลาะห์เคยได้รับวัคซีนแต่ไม่ครบ เพราะการเดินทางไปคลินิกให้ครบจำนวนครั้งเป็นเรื่องยากลำบาก เราไม่มีระบบขนส่งหรือไม่ก็แพงมาก เราจึงไม่ได้ให้ลูกฉีดวัคซีนครบทั้งหมด
    ไอชา มารดาของผู้ป่วย

    ข้อจำกัดในการเข้าถึงการรักษาขั้นพื้นฐานและการรับวัคซีน

    โรคหัดคืออาการติดเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายได้เป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนที่มีประชากรหนาแน่น ซึ่งจะติดได้ง่ายยิ่งขึ้นในเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ นอกจากนี้ยังอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหรือมีภาวะแทรกซ้อน อย่างไรก็ตาม แม้โรคหัดมีแนวโน้มเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน

    ความยากจนผนวกกับความขัดแย้งอย่างรุนแรงเปรียบเสมือนเชื้อเพลิงที่ทำให้ประชากรในพื้นที่ห่างไกลต้องเผชิญกับความยากลำบาก กับการต้องจ่ายค่าเดินทางหรือค่าขนส่งเพื่อพาบุตรไปโรงพยาบาล การขาดการรณรงค์ฉีดวัคซีนและขาดสถานพยาบาลที่ราคาไม่แพงและมีประสิทธิภาพในประเทศ ทำให้ประชาชนที่ไม่มีทางเลือกต้องเดินทางไกลเพื่อรับการรักษาที่จำเป็น

    A mother of 10-months-old patient in the isolation unit in Doctors Without Borders's Mocha Hospital. Yemen, August 2023. © Athmar Mohammed/MSF

    คุณแม่ของผู้ป่วยเด็กอายุ 10 เดือน ในหน่วยคัดแยกผู้ป่วยโรคติดต่อที่โรงพยาบาลบริบาลผู้โมคคา (Mocha) เยเมน สิงหาคม 2566 © Athmar Mohammed/MSF

    ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ได้รับการสนับสนุนการทำงานจากองค์การฯ มักมีภาวะแทรกซ้อน รวมถึงโรคหัดระยะลุกลาม ทั้งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการดูแลเชิงป้องกัน เช่น การฉีดวัคซีน หรือการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที

    แม้เป็นเรื่องยากที่จะระบุปัจจัยทั้งหมดที่ทำให้โรคหัดและโรคระบาดที่ป้องกันได้ชนิดอื่นเพิ่มสูงขึ้นในประเทศเยเมน แต่เป็นเรื่องชัดเจนว่าการฉีดวัคซีนให้ครบจำนวนและข้อจำกัดในการเข้าถึงสถานบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานเป็นปัจจัยหลักของเหตุดังกล่าว ในปีนี้ ปัจจัยเสริมที่ทำให้อุปสรรคเพิ่มมากยิ่งขึ้น คือ อัตราความชุกของโรคที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

    เมื่อปี 2562 ตัวเลขผู้ป่วยโรคหัดในคลินิกของเราอยู่ที่ 731 ราย ส่วนในปี 2563 ลดลงเหลือเพียง 77 ราย องค์การฯ คาดการว่าสถิติดังกล่าวเกิดจากการรณรงค์การฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ ในปี 2562 อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการฉีดวัคซีนมีข้อจำกัด เมื่อประกอบเข้ากับอุปสรรคในการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขของประชาชน ทำให้ตัวเลขเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยในปี 2564 เราพบผู้ป่วยโรคหัด 762 ราย เราไม่ได้กำลังพูดถึงแค่ตัวเลข นี่คือชีวิตจริงของเด็กหลายคน จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นสูงในปีนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้าม ตัวเลขผู้ป่วยสูงขึ้นเกือบ 3 เท่า คิดเป็นเกือบ 4,000 ราย จากสถานการณ์เดิมที่ผู้ป่วยก็ล้นมืออยู่แล้ว โรคหัดทำให้สถานพยาบาลต้องรับภาระหนักเกินไป
    ไอแซค อัลคัลเด หัวหน้าทีมภารกิจในเยเมน

    ที่แย่กว่านั้น จำนวนผู้ป่วยโรคหัดที่เพิ่มขึ้นจนน่ากลัวไม่ได้เป็นปัญหาเดียว ทีมงานของเรารู้ว่าผลกระทบที่เพิ่มขึ้นและหายนะทางการแพทย์ยังคงดำรงอยู่ในเขตการปกครองอัมราน (Amran) ซาดาห์ (Sa’ada) ฮาจจาห์ (Hajjah) อิบบ์ (Ibb) โฮเดดา (Hodeida) ธาอีส (Taiz) มาริบ (Marib) และชับวะฮ์ (Shabwah)

    หน่วยงานขององค์การสหประชาชาติได้ให้ความสำคัญกับสถานการณ์การติดเชื้อโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนที่เพิ่มขึ้นสูงในประเทศเยเมน โดยรายงานระบุว่า ในปี 2565 ประเทศเยเมนมีผู้ป่วยโรคหัดกว่า 22,000 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิต 161 ราย สำหรับสถิติที่บันทึกจนถึงเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยพุ่งทะยานถึง 16,114 รายแล้ว ส่วนกรณีที่ป่วยหรือเสียชีวิตด้วยโรคคอตีบ ไอกรน และไอร้อยวันก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

    การเพิ่มแผนกคัดแยกผู้ป่วย

    ในศูนย์สาธารณสุขบางแห่งที่เราให้การสนับสนุนนั้น เราได้ปรับการดำเนินงานเพื่อให้สอดคล้องกับความจำเป็นที่เพิ่มขึ้น อย่างกรณีการจัดการโรคหัดที่เขตการปกครองอัล เบย์ดา เราพบว่ามีผู้ป่วยทั้งหมด 1,784 ราย ระหว่างกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมิถุนายน 2566

    จำนวนผู้ป่วยเกือบร้อยละ 52 มีภาวะแทรกซ้อน ในขณะที่มีเพียงแค่ร้อยละ 12 ของผู้ป่วยที่ได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อนการมารับการรักษาที่โรงพยาบาล สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าอัตราการรับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคอยู่ในระดับต่ำแค่ไหน

    อุปสรรคด้านการขนส่งและการเข้าถึงเวชภัณฑ์ ข้อจำกัดในการนำเข้าอุปกรณ์สำหรับการให้ช่วยเหลือทางมนุษยธรรม จำนวนสถานพยาบาลที่สามารถให้บริการฉีดวัคซีน และการขาดความรู้ด้านสาธารณสุขที่จะทำให้รับทราบว่าวัคซีนมีความสำคัญอย่างไรในการป้องกันประชากรจากโรคแบบโรคหัด เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วน

    ทีมงานขององค์การฯ ได้ขยายหน่วยคัดแยกผู้ป่วยโรคหัดที่โรงพยาบาลแอบส์ เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่สูงขึ้น และเพียงแค่ไม่กี่วันหลังจากที่เปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2566 พบว่าผู้ป่วยเด็กแผนกกุมารเวชกรรมมากกว่าครึ่งในโรงพยาบาลแม่และเด็ก อัล คานาวิส (Al Qanawis) ในเขตปกครองแอล ฮาเดย์ดา (Al Hudayda) เป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโรคหัด

    Doctors Without Borders's medical team having ward round in measles isolation during the measles outbreak in the Isolation unit that was launched in Mocha trauma hospital. Yemen, August 2023. © Athmar Mohammed/MSF

    ภายในโรงพยาบาลบริบาลโมคคา ทีมงานแพทย์ขององค์การแพทย์ไร้พรมแดนเดินตรวจเยี่ยมผู้ป่วยที่หน่วยคัดแยกผู้ป่วยโรคหัด ระหว่างที่มีการระบาดของโรคในประเทศเยเมน เยเมน สิงหาคม 2566 © Athmar Mohammed/MSF

    ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่โมคคา เดือนเมษายน 2566 เขตปกครองธาอีซมีความจำเป็นในการเพิ่มหน่วยคัดแยกผู้ป่วยโรคติดต่อหน่วยใหม่เพื่อดูแลผู้ป่วยโรคหัดโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ร้อยละ 35 ของผู้ป่วยในเมืองคาเมอร์ (Khamer) และร้อยละ 41 ในเฮเดน(Haydan) คือผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโรคหัด สถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันในหลายพื้นที่บ่งบอกถึงระดับการแพร่กระจายโรคที่สูง และระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ต่ำอย่างน่าตกใจ

    ขอเรียกร้องให้ภาครัฐและหน่วยงานด้านสาธารณสุขเร่งเครื่องในการดูแล

    การที่โรคหัดเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตในหมู่คนจำนวนมาก นำไปสู่มาตรการการคัดแยกกลุ่มผู้ป่วยออกจากผู้ใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดการติดต่อของโรคหัด นี่คือกุญแจสำคัญในการรักษาและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ในเวลานี้องค์การฯ กำลังรักษาผู้ป่วยโรคหัดในเขตการปกครองหลายเขตในประเทศเยเมน และเราพบว่าผู้ปกครองที่มีความรู้เกี่ยวกับอาการของโรคหัด มีส่วนสำคัญในการการป้องกันบุตรของตนและของเพื่อนบ้านจากโรคนี้

    ตัวอย่างคือการที่คุณแม่ของเลเยล (Layal) และฮุสเซน (Hussein) น้องชายของเธอ พาทั้งสองคนมาที่โรงพยาบาลราอาดดา (Ra’ada) ในแอล เบย์ดา หลังจากสังเกตเห็นความผิดปกติในอาการป่วยของลูก

    “ในตอนแรก เลเยลมีการติดต่อสื่อสารและสัมผัสกับบรรดาญาติของเธอ จากนั้นเธอเริ่มมีอาการไข้และผดผื่น ฉันเลยแยกเธอออกจากน้องชาย” แม่ของเลเยลและฮุสเซนกล่าว

    โชคไม่เข้าข้างเราเมื่อเธอติดเชื้อโรคหัดและเริ่มแสดงอาการเสียแล้ว แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันย้ายพวกเขาไปที่โรงพยาบาลทันเวลา และตอนนี้ลูกของฉันก็เริ่มฟื้นตัว ฉันรู้ดีว่าโรคหัดติดต่อกันได้รวดเร็วและกระทบกับเด็กในละแวกบ้าน นั่นคือเหตุผลที่ฉันกังวลมาตลอด

    A child was diagnosed with severe acute malnutrition during the consultations provided by the team at the mobile clinic in Qarn Al Asad area in Rada’a, Al Bayda Governorate. Malnourished children are more susceptible to measles. Yemen, June 2023. © Aljunaid/MSF

    ะหว่างการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ ทีมงานที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในบริเวณคาร์น แอล อะแซด (Qarn Al Asad) ในเขตการปกครองอัล เบย์ดา วินิจฉัยว่าเด็กคนหนึ่งมีภาวะทุพโภชนาการรุนแรงและเฉียบพลัน โดยเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคหัดสูงขึ้น เยเมน กรกฎาคม 2566 © Aljunaid/MSF

    วิกฤติทางสุขภาพที่มีความร้ายแรงจำต้องมีการจัดการที่ครอบคลุมและการประสานงานที่ดี เพื่อปกป้องเด็กในเยเมนจากภัยของโรคหัด เราจำต้องส่งเสริมให้มีมาตรการป้องกัน การมีส่วนร่วมของชุมชน และการยกระดับการบริหารจัดการ หน่วยงานของภาครัฐ นักกิจกรรมด้านมนุษยธรรมและสุขภาพในประเทศเยเมนต้องให้ความเชื่อมั่นว่ามีวัคซีนที่เพียงพอสำหรับให้บริการในหน่วยสาธารณสุข มีการเพิ่มการเข้าถึงและเพิ่มจำนวนสถานพยาบาลทั่วไป ยกระดับประสิทธิภาพในการส่งต่อผู้ป่วยและเสริมการตระหนักรู้ด้านสาธารณสุขภายในชุมชน

    องค์การแพทย์ไร้พรมแดนเริ่มปฏิบัติงานในประเทศเยเมนครั้งแรกเมื่อปี 2529 และตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมามีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ทีมงานของเราปฏิบัติงานอยู่ในโรงพยาบาล 11 แห่ง และให้การสนับสนุนสถานพยาบาลอีก 16 แห่ง ในเขตการปกครอง 13 เขต ปี 2565 เรารับรองผู้ป่วยกว่า 108,000 ราย ให้คำปรึกษาผู้ป่วยนอกกว่า 71,000 ราย และผ่าตัดผู้ป่วยกว่า 36,000 ราย รวมทั้งช่วยทำคลอดกว่า 35,000 ชีวิต