Skip to main content

    เลบานอน: ข้อเรียกร้องให้ปกป้องพลเรือนและบุคลากรทางการแพทย์จากการโจมตีของอิสราเอล

    MSF health promotion activities in Downtown Beirut. Lebanon, October 2024. © Elham Haider/MSF

    หน่วยงานด้านการประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางด้านสาธารณสุขขององค์การฯ กำลังปฏิบัติงานในพื้นที่ในกลางเมืองเบรุต - เลบานอน 2567 © Elham Haider/MSF

    ทีมขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Doctors Without Borders / Médecins Sans Frontières – MSF)ทำงานอย่างไม่ลดละเพื่อให้การรักษาต่อไปในสถานพยาบาลที่ยังคงเปิดดำเนินการอยู่ และได้เพิ่มระดับการปฏิบัติงานให้เพียงพอต่อความต้องการความช่วยเหลือจากความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการโจมตีทางอากาศยังคงรุนแรงอยู่ องค์การฯ ต้องหยุดให้บริการบางประเภทในบางพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก หากองค์การฯ ได้ทำการปรับเปลี่ยนการทำงานเพื่อส่งต่อการบริการด้านสุขภาพที่จำเป็นกับประชาชนต่อไป

    องค์การฯ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความขัดแย้งงดเว้นการโจมตีพลเรือน สถานพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในเลบานอน เพื่อรับประกันว่าผู้คนที่ต้องการรับความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉินจะสามารถเข้ารับบริการด้านสุขภาพที่จำเป็นได้

    จากความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น ถนนได้รับความเสียหาย และสถานการณ์ที่ขาดการรับรองความปลอดภัย องค์การฯ จึงไม่สามารถเดินทางไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในเลบานอนทุกแห่งได้ แม้ว่าความต้องการความช่วยเหลือด้านการแพทย์และด้านมนุษยธรรมจะสูงมากเพียงใด
    ฟรองซัวส์ ซัมปารินี ผู้ประสานงานฯ

    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การฯ ต้องปิดคลินิกในค่ายผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ เบิร์จ อัล บาราจเนห์ (Palestinian camp of Burj el Barajneh) ในชานเมืองทางตอนใต้ของเบรุต และยังต้องหยุดให้บริการชั่วคราวในบะอัลเบค เฮอร์เมล (Baalbek-Hermel) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเลบานอน โดยทั้งสองแห่งคือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการโจมตีหลายครั้ง

    พวกเรากลับมาเปิดให้บริการได้บางส่วนที่คลินิกในเฮอร์เมลเพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ป่วยจะได้รับยารักษาโรค โดยองค์การฯ ได้จัดยาที่จำเป็นให้เพียงพอสำหรับการรับประทาน 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและความเสี่ยง ซัมปารินีกล่าวเพิ่มเติม

    ผู้ป่วยในพื้นที่เหล่านี้ที่เป็นผู้เปราะบางอยู่แล้ว และกำลังประสบปัญหาความยากลำบากในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่พวกเขาจำเป็นต้องได้รับ การปิดสถานพยาบาลทำให้พวกเขาโดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ต้องอยู่โดยไม่สามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ที่พวกเขาต้องการ

    ทีมแพทย์ขององค์การฯ ยังคงไม่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ในทางตอนใต้ของเลบานอน เนื่องจากขาดการรับรองความปลอดภัยสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ หนึ่งในโรงพยาบาลที่พวกเราวางแผนไว้ว่าจะให้การช่วยเหลือสนับสนุนและได้บริจาคยารักษาโรคพร้อมกับชุดปฐมพยาบาลในนาบาติเยห์ (Nabatiyeh) ถูกโจมตีเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม เนื่องจากตั้งอยู่ห่างจากแนวสู้รบเพียงไม่กี่กิโลเมตรซัมปารินีอธิบาย

    ทีมแพทย์เคลื่อนที่ขององค์การฯ ที่สนับสนุนการทำงานในศูนย์บริการสุขภาพในนาบาติเยห์และพื้นที่อื่น ๆ ใกล้กับชายแดนเลบานอนอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 ถูกบังคับให้หยุดให้บริการ ก่อนหน้านี้ทางทีมยังสามารถเดินทางไปยังพื้นที่ใกล้ชายแดนได้ แต่ปัจจุบันไม่สามารถทำได้แล้ว และยังถูกจำกัดการให้บริการได้ไกลสุดเพียงเมืองซาอิดะห์ (Saida) ที่อยู่ห่างชายแดนใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดไปทางเหนือถึง 50 กิโลเมตร

    Distribution of non food item kits in Downtown Beirut. Lebanon, October 2024. © Maryam Srour/MSF

    การส่งต่อเสบียงที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตไปยังกลางเมืองเบรุต - เลบานอน ตุลาคม 2567 © Maryam Srour/MSF

    ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา การโจมตีทางการอากาศของอิสราเอลคร่าชีวิตเจ้าหน้าที่การแพทย์ฉุกเฉินไปแล้วอย่างน้อย 50 คน ทำให้รายงานตัวเลขล่าสุดในรายงานโดยกระทรวงสาธารณสุขของเลบานอน ระบุว่ามีบุคลากรทางการแพทย์เสียชีวิตนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วสูงถึงร้อยกว่าคน การโจมตีอย่างหนักของอิสราเอลยังขัดขวางการเข้าถึงการรักษาพยาบาลทั่วเลบานอน จากข้อมูลของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (Office for the Coordination of Humanitarian Affairs หรือ OCHA) ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 โรงพยาบาล 6 แห่ง และสถานพยาบาลเบื้องต้นอีก 40 แห่ง ได้ปิดตัวลงเนื่องจากการต่อสู้ที่รุนแรง ทำให้บุคลากรไม่สามารถปฏิบัติงานใต้สถานการณ์ที่ไร้การรับประกันความปลอดภัยต่อไปได้

    ความขัดแย้งและการใช้อาวุธห้ำหั่นกำลังทำให้วิกฤติด้านมนุษยธรรมที่มีอยู่เลวร้ายลง และเพิ่มระดับความต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศถือเป็นภาระที่หนักหน่วงต่อระบบสาธารณสุขของเลบานอน ซึ่งทำให้บุคลากรทางการแพทย์อพยพไปจำนวนมากและได้จำกัดความสามารถในการทำงานและทรัพยากรของสถานพยาบาล ศูนย์สุขภาพท้องถิ่นที่คับคั่งไปด้วยผู้ป่วยอยู่แล้ว กำลังเผชิญกับความกดดันที่เพิ่มขึ้นขณะที่พวกเขาพยายามให้การรักษาให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้พลัดถิ่นที่สูงขึ้น

    ข้อมูลของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (The United Nations High Commissioner for Refugees หรือ UNHCR) เผยให้เห็นว่า จำนวนผู้พลัดถิ่นในเลบานอนนั้นสูงเกินเกณฑ์ความสามารถของประเทศในการจัดหาที่พักอาศัยให้เพียงพอแก่ผู้พลัดถิ่นมากกว่าหนึ่งล้านคน ที่พักอาศัยส่วนใหญ่ที่ผู้คนใช้เป็นที่หลบภัยมีสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่มาก เพื่อแก้ไขสถานการณ์ องค์การฯ ได้ส่งทีมแพทย์เคลื่อนที่ 12 ทีมไปยังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เบรุต ภูเขาเลบานอน (Mount Lebanon) ซาอิดะห์ (Saida) ทริโปลี (Tripoli)  เบกา (Bekaa) และอัคคาร์ (Akkar) ทีมแพทย์ได้ให้การรักษาเบื้องต้นทางด้านจิตวิทยา การให้คำปรึกษาทางการแพทย์ทั่วไป และให้การช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต นอกจากนี้ยังได้บริจาคที่นอน ชุดอุปกรณ์สุขอนามัย อาหารปรุงสดใหม่ และน้ำสะอาด แต่อย่างไรก็ตาม ความต้องการความช่วยเหลือของผู้คนนั้นเกินกว่าประสิทธิภาพในการดำเนินงานขององค์การฯ

    องค์การฯ ต้องการการรับประกันว่าการทำงานเพื่อกลุ่มคนที่ต้องการบริการทางการแพทย์จะดำเนินต่อไป องค์การฯ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยพลเรือน อาคารบ้านเรือนของผู้คน สถานพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ต้องปลอดภัยจากการโจมตี พวกเขาจะต้องได้รับความปลอดภัย
    ฟรองซัวส์ ซัมปารินี ผู้ประสานงานฯ