Skip to main content

    ไนจีเรีย: ความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคในไมดูกูรีหลังน้ำท่วมหนัก

    Maiduguri 1

    เมืองไมดูกูรีเผชิญกับน้ำท่วมหนัก มีผู้ประสบภัยไม่น้อยต้องขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย © Abba Adamu Musa/MSF

    ไมดูกูรี (Maiduguri), รัฐบอร์โน (Borno), 20 กันยายน 2567 - องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Doctors Without Borders / Médecins Sans Frontières – MSF) มีความกังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการระบาดของมาลาเรีย (Malaria) และโรคที่ติดต่อได้ทางน้ำ เช่น อหิวาตกโรค (Cholera) ที่อาจเพิ่มสูงขึ้น ภายหลังเกิดน้ำท่วมครั้งล่าสุดที่กินพื้นที่เมืองไมดูกูรีเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ยังมีความหวั่นเกรงว่าวิกฤติครั้งนี้อาจทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ องค์การฯ เรียกร้องให้มีการช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการช่วยเหลือในการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภค สุขาภิบาล และการรักษาพยาบาล เพื่อปกป้องผู้คนที่ได้รับผลกระทบมาก่อนหน้านี้จากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยที่เรื้อรังและระดับภาวะทุพโภชนาการที่สูงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    เมื่อวันที่ 10 กันยายน ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักได้ทำให้น้ำล้นออกมาจากเขื่อนอาเลา (Alau Dam) ในรัฐบอร์โน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ของเมืองไมดูกูรีและบริเวณโดยรอบ อุทกภัยครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบ้านเรือน ตลาด ทุ่งนา ปศุสัตว์ และสถานพยาบาลอีกหลายแห่ง จากข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐของบอร์โน ผู้คนเกือบ 400,000 คนได้ลงทะเบียนเข้าอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว 30 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนที่มีจำนวนห้องสุขาน้อยมากและขาดแคลนน้ำดื่มสะอาด

     

    Maiduguri 2

    ชายสองคนเดินฝ่ากลุ่มน้ำขัง ภายหลังจากเกิดอุทกภัยในเมืองไมดูกูรี รัฐบอร์โน พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย © Abba Adamu Musa/MSF

    พวกเรามีความกังวลเป็นอย่างมากต่อสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ปลอดภัยและความเสี่ยงต่อการระบาดของอหิวาตกโรคและมาลาเรีย จำนวนเด็กที่ได้รับผลกระทบจากมาลาเรียและท้องร่วงเฉียบพลันนั้นเพิ่มขึ้นอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนน้ำท่วม และตั้งแต่มีน้ำท่วม พวกเราก็ได้พบผู้ป่วยที่มีอาการของอหิวาตกโรค พวกเรากลัวว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นโดยปราศจากความช่วยเหลือทางด้านการแพทย์และด้านมนุษยธรรม โดยเฉพาะการจัดหาน้ำ สุขาภิบาล และด้านสุขอนามัย
    ดร.อิซซาเลย์ อับเดล กาเดอร์

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมขององค์การฯ ได้เดินทางไปยังศูนย์พักพิงหลายแห่งในกาติมารี เยอวา อาลีเชริฟ สถาบันอาชีวะและบ้านพักครู (Galtimari, Yerwa, Ali Sheriff, Vocational Enterprise Institute, Teachers Village) เพื่อประเมินระดับความช่วยเหลือที่ผู้คนต้องการและเริ่มให้บริการที่จำเป็น เช่น น้ำสำหรับใช้อุปโภคบริโภคจากรถบริจาคน้ำและถังเก็บน้ำ การติดตั้งและซ่อมแซมห้องสุขา และการแจกจ่ายมุ้งกันยุง นอกจากนี้ ทางทีมยังได้ให้บริการให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยในพื้นที่ ซึ่งรวมไปถึงการช่วยเหลือด้านจิตใจ และการส่งต่อผู้ป่วยอาการสาหัสไปยังสถานพยาบาลที่พวกเราสนับสนุนอยู่

    เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจเกิดมาลาเรียและอหิวาตกโรค องค์การฯ ได้วางแผนที่จะขยายแผนกผู้ป่วยเด็กที่จะรองรับผู้ป่วยเด็กได้ 100 เตียง เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยมาลาเรียที่มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้น และทางทีมได้เริ่มจัดตั้งศูนย์รักษาอหิวาตกโรคที่สามารถเพิ่มความจุได้ถึง 100 เตียงหากจำเป็น

    Maiduguri 3

    พยาบาลขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน ยาเคลลู (Yakellu) ทำการเก็บตัวอย่างเลือดของหญิงพลัดถิ่น เพื่อนำไปวิเคราะห์โรคมาลาเรีย ภายในค่ายบ้านพักครู ในพื้นที่ไมดูกูรี รัฐบอร์โน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย © Abba Adamu Musa/MSF

    รัฐบาลรัฐบอร์โนประกาศว่าจะมีการปิดและรวมศูนย์พักพิงส่วนใหญ่เข้าด้วยกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พวกเขาวางแผนที่จะคงศูนย์พักพิงหลักไว้ 3 แห่งต่อไปอีก 1 สัปดาห์เพื่อรองรับผู้คนที่ยังไม่มีที่พักอาศัย และสำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันอหิวาตกโรคสำหรับผู้คนจำนวนมากที่กำลังจะเกิดขึ้น

    ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต้องให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมต่อไปตามความจำเป็น และต้องมั่นใจว่าผู้คนสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างทันท่วงทีและสะดวก การปิดศูนย์พักพิงส่วนใหญ่ทำให้หลายคนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบางมาก สำหรับผู้ที่ยังคงอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง ต้องมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อปรับปรุงสุขอนามัยให้เร็วที่สุด ซึ่งรวมถึงการมีห้องสุขา น้ำสะอาดและมุ้งกันยุงให้ใช้
    ดร.อิซซาเลย์ อับเดล กาเดอร์

    การช่วยเหลือชุมชนต่างๆ ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องจำเป็นต่อศูนย์พักพิงแห่งใหม่ ช่วงก่อนน้ำท่วมประชากรทุกภาคส่วนของไมดูกูรีต่างต้องเผชิญกับอุปสรรคอันใหญ่หลวงอยู่แล้ว ซึ่งรวมไปถึงหนึ่งในวิกฤติภาวะทุพโภชนาการที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย และไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในทุกๆ สัปดาห์จะมีผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการรุนแรงหลายรายเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลด้านโภชนาการบำบัดขององค์การฯ

    Maiduguri 4

    ผู้พลัดถิ่นเดินภายในค่ายบ้านพักครู ซึ่งเป็นหนึ่งในค่ายทั้งหมด 30 แห่งที่ผู้พลัดถิ่นจากเหตุน้ำท่วมอาศัยอยู่ภายในเมืองไมดูกูรี ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย © Abba Adamu Musa/MSF

    ช่วงเวลาที่เกิดเหตุน้ำท่วม คือเวลาเดียวกับที่ตัวเลขการเข้ารับการรักษาที่หน่วยโภชนาการเพิ่งจะลดลง เนื่องจากตลาดและภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนัก การเก็บเกี่ยวพืชผลได้รับความเสียหาย และสัตว์เลี้ยงของปศุสัตว์ถูกน้ำพัดหาย ทำให้มีความกังวลอย่างมากว่าแนวโน้มการเข้ารับการรักษาที่ลดลงจะกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง
    ดร.อาซ็อก ชริรัง ซังก์ปาล

    ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่องค์การฯ ต้องเข้าช่วยเหลือแบบฉุกเฉินในเหตุการณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับน้ำท่วมในทางตอนเหนือของไนจีเรีย ในเดือนสิงหาคม บ้านเรือนและฟาร์มในเมืองกุมมี(Gummi) รัฐซัมฟารา (Zamfara) ถูกทำลายเนื่องจากน้ำท่วมหนัก ส่งผลให้ผู้คนหลายพันคนต้องพลัดถิ่น ซึ่งคล้ายกับเมืองไมดูกูรีที่ผู้คนในพื้นที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคอันใหญ่หลวง เช่น ภาวะทุพโภชนาการ สถานการณ์ความไม่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ไม่เพียงพอ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การฯ ได้ให้การช่วยเหลือหลายชุมชนในกุมมีโดยมอบน้ำดื่มสะอาด ซ่อมแซมบ่อบาดาล และจัดส่งชุดอุปกรณ์ที่มีแผ่นพลาสติกสำหรับที่พักพิงแบบชั่วคราวและมุ้งกันยุงให้