Skip to main content

    ปากีสถาน: การทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน

    outreach counsellor doctors without borders emergency response in pakistan. © MFS

    Akeela รับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการสื่อสารองค์กรขององค์การแพทย์ไร้พรมแดนตั้งแต่ปี 2020 ทั้งนี้หลังจากบ้านเรือนของเธอเสียหาย Akeela ในฐานะเจ้าหน้าที่แนวหน้ายังคงเดินหน้าปฏิบัติงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน ปากีสถาน, กันยายน 2021 © MSF 

    “ฝนยังคงตกตามปกติในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ชีวิตประจำวันของเราก็ดำเนินไปได้ด้วยดี ฉันมักจะเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านเพื่อเยี่ยมครอบครัวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากที่ทำงานของฉันและทีมสื่อสารองค์กรขององค์การแพทย์ไร้พรมแดนราว 4 ถึง 5 กิโลเมตร เราเคยไปเยี่ยมชุมชนและให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพของแม่และเด็ก รวมถถึงโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ กระทั่งในเดือนสิงหาคม ฝนเริ่มตกลงมาอย่างต่อเนื่องมันมีปริมาณมากกว่าที่เคยตกในปีก่อนๆ จนในวันที่ 17 สิงหาคม น้ำเริ่มไหลมาถึงหมู่บ้านและเราต้องอพยพออกทันที

    ในช่วงเวลาชุลมุน เป็นความโชคดีของเราที่เรามีญาติใน Dera Murad Jamali พ่อแม่และน้องของฉันจึงรีบอพยพออกจากหมู่บ้านไปยังบ้านของคุณลุง ขณะที่พี่ชายและพี่สาวของฉันยังต้องอยู่ในหมู่บ้านเพื่อดูแลฝูงสัตว์ที่บ้านของเรา เพราะครอบครัวของฉันเลี้ยงวัวและแพะจำนวนมาก พวกเขาพยายามต้อนฝูงสัตว์ขึ้นไปบนที่สูง แต่พอน้ำเริ่มท่วมหมู่บ้านพวกเขาก็ต้องหาทางเอาตัวรอด พี่น้องของฉันปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านใกล้เคียง เฝ้าดูสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง กระทั่งระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นถึง 8 หรือ 9 ฟุต ทั้งฝูงสัตว์ บ้าน และไร่นาของเราถูกน้ำพัดหายไปหมด เราเสียใจมากที่ต้องมาเห็นบ้านและหมู่บ้านของเราจมอยู่ใต้น้ำ

    A view of Akeela's hous in village Mir Gul Hassan Manjhoo Shoori which is currently underwater due to floods

    บ้านของ Akeela ในหมู่บ้าน Mir Gul Hassan Manjhoo Shoori ซึ่งขณะนี้จมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากน้ำท่วมฉับพลันในปากีสถาน กันยายน 2022 © MSF

    ตอนแรกฉันลางานเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อกลับไปช่วยเหลือครอบครัว แต่เมื่อเห็นว่ามีคนจำนวนมากกำลังรอรับความช่วยเหลือ ฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากองค์การฯ ที่โทรเข้ามาขอความช่วยเหลือให้ร่วมทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งนี้ ฉันห้ามตัวเองไม่ให้ตอบ 'ตกลง' ไม่ได้เลย ภายในเวลา 2 วัน ฉันเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในการประเมินสถานการณ์ภายในหมู่บ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม

    เมื่อเดินทางไปถึงหมู่บ้านที่ห่างไกล เราพบว่าหลายครอบครัวอาศัยอยู่ในที่โล่งไม่มีที่กำบัง นอกจากนี้ยังมีการนำเตียงไม้ 2 เตียงมาต่อกันแล้วคลุมทับด้วยพลาสติกอีกชั้นใช้เป็นที่กำบังชั่วคราว

    หลังจากการประเมินสถานการณ์ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อย ก็มีการจัดตั้งทีมฉุกเฉินขึ้น ฉันได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของทีม B หมู่บ้านแรกที่เราไปเยี่ยม คือค่ายโรงไฟฟ้า Rabi Pull และ Uch สถานการณ์ในพื้นที่คือผู้ประสบภัยจำเป็นต้องใช้น้ำท่วมที่ปนเปื้อนและเป็นแหล่งกระจายเชื้อโรคต่างๆ ในการอุปโภคบริโภค ซึ่งเราได้จัดตั้งคลินิกเคลื่อนที่และส่งมอบน้ำดื่มสะอาด โดยน้ำดื่มนี้มาจากโรงบำบัดน้ำขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน Dera Murad Jamali ใน Balochistan ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงบำบัดน้ำที่มีอยู่ไม่กี่แห่งในภูมิภาคนี้

    ส่วนภายในคลินิกเคลื่อนที่ ทีมแพทย์พบผู้ป่วยจำนวนมากที่ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ท้องร่วง มาลาเรีย และผิวหนังติดเชื้อ องค์การ์ฯ พร้อมเดินหน้าให้การตรวจรักษา จ่ายยา และส่งต่อเคสของสตรีมีครรภ์และผู้ที่ต้องการการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญไปยังศูนย์การแพทย์ในโรงพยาบาล Dera Murad Jamali

    นอกจากนี้ เรายังแจกจ่ายถุงยังชีพ 236 ชุดให้กับผู้ที่อาศัยในบริเวณใกล้กับโรงไฟฟ้า Uch ซึ่งเป็นที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ จนถึงขณะนี้ เราได้ส่งมอบน้ำดื่มสะอาดกว่า 70,000 ลิตรและให้คำปรึกษาทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยประมาณ 2,575 รายในสถานที่ต่างๆ ภายในเมือง Naseerabad, Jaffarabad, Dera Murad Jamali,  และ Balochistan

    outreach activity in pakistan. © MSF

    ทีมฉุกเฉินขององค์การแพทย์ไร้พรมแดนให้การสนับสนุนชุมชนที่ได้รับผลกระทบผ่านกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ปากีสถาน กันยายน 2022 © MSF

    เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราได้จัดตั้งคลินิกเคลื่อนที่ในหมู่บ้านของฉันที่ประสบอุทกภัย ซึ่งก็คือ Mir Gul Hassan Manju Shori Barun Naseerabad หรือที่เรียกว่า 'tanki wala' ซึ่งในขณะที่เรากำลังมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้าน ฉันมีความรู้สึกอิ่มเอมใจ เพราะคนในหมู่บ้านต่างทราบถึงการทำงานขององค์การแพทย์ไร้พรมแดนที่ฉันทำอยู่เป็นอย่างดี จากการดำเนินกิจกรรมสื่อสารองค์กรในชุมชนต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้บ้านทุกหลังในหมู่บ้านของฉัน รวมทั้งบ้านของฉันยังคงจมอยู่ใต้น้ำ และคงใช้เวลาอีกเป็นเดือนในการกลับสู่สภาวะปกติ 

    ขณะปฏิบัติภารกิจในค่ายแพทย์แห่งหนึ่งของเรา ฉันสังเกตเห็นว่า คนบางกลุ่มพักอยู่ฝั่งหนึ่งของเขตน้ำท่วม ขณะที่อีก 2-3 ครอบครัวอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งมีครอบครัวหนึ่งที่มีลูก 3 คน และทุกคนล้วนมีไข้สูง พ่อแม่ต่างพยายามพาลูกๆ ของพวกเขาฝ่าน้ำท่วมเพื่อเข้ามารับการรักษาพยาบาล  ขณะที่อีกหลายคนในหมู่บ้านอื่นๆ ที่ห่างไกลยังคงรอคอยความช่วยเหลือ ฉันสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของพวกเขาเมื่อต้องอพยพออกจากบ้านมาอาศัยอยู่ในค่ายโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น บางส่วนยังถูกตัดขาดจากเมืองและยากกับการเข้าถึงอีกด้วย

    พวกเขาคือเครื่องเตือนใจว่าทำไมเราจึงยังคงดำเนินการคลินิกเคลื่อนที่ทุกวัน และจัดหาน้ำดื่มสะอาดให้กับครอบครัวผู้พลัดถิ่นเรื่อยมา